[SJ&SNSD] Message.. แค่ คำบางคำ - [SJ&SNSD] Message.. แค่ คำบางคำ นิยาย [SJ&SNSD] Message.. แค่ คำบางคำ : Dek-D.com - Writer

    [SJ&SNSD] Message.. แค่ คำบางคำ

    คุณเคยมั้ยแค่ข้อความไม่กี่ข้อความ ก็ทำให้คุณยิ้มอย่างมีความสุขได้

    ผู้เข้าชมรวม

    674

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    674

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 ธ.ค. 54 / 13:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       
       Massage แค่คำบางคำ..

      11.12.28

                 แปะ แปะ แปะ 

                           เสียงหยาดฝนที่ตกลงมาปรอยๆ ในช่วงเวลาเย็นๆแบบนี้ ยิ่งทำให้อากาศเริ่มเย็นตัวลงและหนาวขึ้นไปอีก ร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีน้ำเย็น กำลังวิ่งผ่าฝนเข้ามาในร้านคอฟฟี่ช็อปเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านประจำของเขา

                  "อ่า ให้ตายเถอะลืมเอาร่มมาอีกแล้ว เสื้อเปียกหมดเลย"
         
      ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก เพราะเขาเปียกแบบนี้มาสามวันต่อกันแล้วหน่ะสิ !

                  "ลาเต้แก้วนึงครับ"

                  "เปียกมาอีกแล้วนะคะ คุณทงเฮ"
                  เสียงใสๆของเจสสิก้าเจ้าของร้านดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม

                  "ครับ ผมลืมเอาร่มมาอีกแล้วหน่ะ แหะๆ"

                  "แย่จังนะคะ วันนี้ฉันไม่มีร่มให้คุณยืมแล้วหล่ะค่ะ คุณดันเอาร่มร้านฉันไปหมดแบบนี้"

                  "ไม่เป็นไรครับ พรุ่งนี้ผมจะเอามาคืนคุณแล้วกัน"

                  "ได้ค่ะ ^ ^"

                    น่าเบื่อจัง ช่วงนี้ฝนตกทุกวันเลย ทงเฮคิดพลางมองฝนที่กำลังจะหยุดตก เฮ้ออออออ  ฝนตกแบบนี้ออกไปไหนไม่ได้เลยสินะ  เขานึกพลางเปิดหนังสือที่อยู่ในร้านไปเรื่อยๆ จึงนึกสนุกขึ้นมา พร้อมกับเขียนข้อความว่า "วันนี้ น่าเบื่อจัง :(" ลงบนหนังสือเล่มนั้น แล้ววางมันไว้  ถ้าเจสสิก้ามาเห็น เธอต้องวีนใส่เขาแน่ๆ เจ้าของร้านคนนี้ถึงจะน่ารักแค่ไหน แต่ถ้าอารมณ์เสียขึ้นมา เขาก็ไม่อยากจะคิดเหมือนกัน

                  "ผมกลับแล้วนะครับ" 

                  "ค่ะ กลับบ้านดีๆนะคะ"

                  เจสสิก้ามองร่างสูงที่เดินออกไปเพียงลำพัง  เธอกับเขารู้จักกันมานาน เธอมักจะสนิทกับลูกค้าทุกคนเสมอ แต่กับทงเฮ เธอสนิทกับเขาเป็นพิเศษเพราะเขามักจะมาสั่งลาเต้ที่ร้านของเธอทุกเย็น ทำให้เธอมีเวลาได้คุยกับเขามากขึ้น  แต่เขาก็ไม่เห็นทงเฮจะมี แฟนเป็นตัวเป็นตนสักที ทั้งๆที่น่าตาดีขนาดนี้

                  "พี่สิก้า ! ลาเต้แก้วนึงสิค้าาาาาาาาา"
                  เสียงตะโกนของยุนอา สาวน้อยเสื้อยืดสีขาวกระโปรงสีชมพูที่ดูหวานขัดกับนิสัยซนๆของเธอมาก
      “ยุนอา เธอทำพี่ตกใจอีกแล้วนะ”

      “ทำไมหล่ะคะ เวลาพี่หน้าเหวอ พี่สวยออกน้า”

      “วันนี้พี่ไม่มีเค้กแถมให้เธอหรอกนะจ๊ะ”

                ยุนอาทำหน้าสลดแล้วมานั่งลงตรงโต๊ะ ตัวเดิมกับที่ทงเฮนั่ง แล้วหยิบหนังสือมาเปิดดู “วันนี้ น่าเบื่อจัง” ยุนอาอ่านข้อความนั้นพลางนึกขำ อะไรกัน เขาเบื่อมันมากขนาดต้องเขียนลงในหนังสือร้านคอฟฟี่ช็อปเลยเหรอเนี่ย

                ร่างบางคิดพลางเขียนลงไปข้างล่างข้อความนั้นว่า “เบื่อทำไมหล่ะคะ” เด็กสาวเขียนไปพร้อมกับยิ้มไป เธอจะได้คำตอบรึป่าวนะ

                “มาแล้วจ้า ลาเต้”

                “ขอบคุณค่ะ พี่สิก้าทำอร่อยเหมือนเดิมเลย”

                “ปากหวานนะจ๊ะ เธอก็ยังกินเก่งเหมือนเดิมเลย”

                “อยู่แล้วแหละค่ะ  เอ๊ะ ! ทำไมวันนี้ร้านพี่สิก้าเปียกจังเลยหล่ะคะ”

                “อ๋อ มีลูกค้าคนนึงตากฝนมาหน่ะ เค้าเอาร่มพี่ไปหลายวันก่อนยังไม่เอามาคืนเลยเนี่ย”

                “เค้าขี้ลืมจังเลยนะคะ” ยุนอาพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคักกับท่าทางของเจสสิก้าที่พูดอย่างปลงๆ

                “ปล่อยเค้าไปเถอะ เค้าก็เป็นแบบนี้แหละ เธอคลาดกับเค้าแปปเดียวเองนะเนี่ย เค้าพึ่งออกไปเมื่อกี้เอง”

                “เหรอคะ” ยุนอามองท้องฟ้าอย่างเลื่อนลอย เค้าจะใช่คุณที่ขี้เบื่อหรือป่าวนะ

                “แต่พี่ว่า ตาของเค้าหน่ะ เหมือนตาของเธอเลยนะ”

                “พี่เบลอแล้วหล่ะค่ะ ตาของฉันมีคู่เดียวในโลกเท่านั้นแหละ”

                ยุนอาพูดพร้อมกับลาเต้ที่อยู่ในปาก  สาวสวยเจ้าของร้านมองหน้าเด็กสาวข้างหน้า อย่างเอ็นดู ยุนอาก็เป็นเหมือนน้องสาวของเธอ ยุนอาเป็นเด็กคุยเก่งยิ้มง่าย จึงเข้ากับเจสสิก้าที่เป็นสาวอัธยาศัยดี และชอบคุยกับคนอื่นอยู่แล้วได้ดี  เลยทำให้ทั้งสองคนสนิทกันมาก เหมือนพี่น้องคู่นึงเลยทีเดียว

      11.12.29

      “ฝนตกอีกแล้วเหรอเนี่ย” ทงเฮพูดกับตัวเองอย่างหัวเสีย เขาเปียกอีกแล้วสินะ

      “เจสสิก้า ผมลืมร่มอีกแล้ว คุณคงไม่ว่าผมนะที่ผมทำร้านคุณเปียกขนาดนี้”

      “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเริ่มจะชินกับมันแล้วแหละ” เจสสิก้าพูดพลางหัวเราะคิกคัก ทำให้ทงเฮรู้สึกอายๆอย่างบอกไม่ถูก

      “ลาเต้มั้ยคะวันนี้”

      “ก็ดีครับ”

              ทงเฮนั่งลง พร้อมกับหยิบหนังสือเล่มเดิมของเมื่อวานขึ้นมา แล้วเขาก็ต้องแปลกใจเพราะเขาเห็น “เบื่อทำไมหล่ะคะ”   “ก็ฝนมันตกทุกวันเลยนี่นา” ร่างสูงเขียนต่อลงไปจากข้อความนั้น  มีคนสนใจข้อความเล็กๆที่เราเขียนด้วยเหรอเนี่ย น่าแปลกจริงๆ ทงเฮคิด 

      30 นาทีต่อมา

      “พี่สิก้า ลาเต้แก้วนึงสิคะ ข้างนอกหนาวมากเลย” ยุนอาพูดพร้อมกับเดินเอาร่มไปแขวนไว้ที่หน้าร้าน วันนี้ฝนตกอีกแล้ว เธอรู้สึกดีจัง

      “ได้จ้ะ นั่งรอก่อนนะ”
              ร่างบางนั่งลงที่โต๊ะตัวเดิมของเธอ 

      “อ๊ะ มีคนมาเขียนตอบด้วย”

              ยุนอาพูดพร้อมกับ ลงเขียนเขียนตอบไปว่า “ทำไมหล่ะคะ ฝนตกนี่สดชื่นดีออก” ท่าทางคนคนนี้คงจะไม่ชอบฝนน่าดูสิน้า เขาถึงได้เบื่อเวลาที่ฝนตก เธอคิดพลางมองสายฝนที่กำลังตกลงมา  มันน่าเบื่อตรงไหน น่ามองดีออก  

      “ลาเต้ได้แล้วจ้ะ” 

      “ขอบคุณค่ะ พี่สิก้า”

      11.12.30

      “เจสสิก้า วันนี้ผมเอาร่มมาคืนคุณด้วยแหละ” ทงเอพูดพร้อมกับรอยยิ้ม วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ คงเพราะว่า วันนี้ฝนไม่ตกหล่ะมั้ง

      “ขอบคุณมากนะคะ ฉันนึกว่าคุณกินมันไปแล้วซะอีก”  เจสสิก้าพูดพร้อมกับยิ้มล้อเลียน

      “ผมจะกินมันแล้วแหละ แต่ลืมไปว่าผมอาจจะต้องใช้มันอีกนาน” ทงเฮก็รับมุขของหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา

      “ลาเต้ มั้ยคะวันนี้”

      “ก็ดีครับ”

              ทงเฮนั่งลง และเขาก็ไม่ลืมที่จะหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา และเขาก็ไม่ผิดหวัง “ทำไมหล่ะคะ ฝนตกนี่สดชื่นดีออก”  เขาอมยิ้ม ผู้หญิงคนนี้ต้องชอบฝนมาก พนันได้เลยว่าเธอต้องชอบเดินตากฝนแน่ๆ “แต่ฝนมันชื้นแฉะนี่ครับ คุณไม่กลัวจะเป็นหวัดเหรอ” คำตอบของเขาแสดงให้เห็นได้ชัดว่า ข้อความนี้เต็มไปด้วยความห่วงใยแค่ไหน เขาอยากเจอผู้หญิงคนนี้สักครั้งจังเลย  

      50 นาทีต่อมา

      ฝนเริ่มตกปรอยๆลงมาอีกแล้ว  เจสสิก้ามองสายฝนที่กำลังตกลงมา แปลกจังวันนี้ยุนอายังไม่มากินลาเต้ที่นี่เลยนี่นา

      “พี่สิก้า !!”

      “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ! ยุนอา ! ถ้าวันนึงพี่หัวใจวายขึ้นมา เธอต้องรับผิดชอบเลยนะ”

      “ง่ะ ล้อเล่นนิดหน่อยเองอย่างอนสิค้า”

      “แล้ววันนี้ทำไมถึงช้านักหล่ะ ปกติไม่มาช้านี่”

      “วันนี้ฝนไม่ตกนี่คะ ฉันรอให้ฝนตกแล้วค่อยเดินมา”

      “เธอบ้าไปแล้วแน่ๆยุนอา”

      “ทำไมหล่ะคะ ฉันชอบเดินตอนฝนตกนะ มันเย็นสบายดีออก”

      “จ้าๆ ว่าแต่วันนี้ ลาเต้มั้ยสาวน้อย”

      “ก็ดีค่ะ”

              ยุนอาเดินมาแล้วนั่งลงที่โต๊ะตัวเดิมของเธอ แล้วหยิบหนังสือออกมา เป็นหวัดเหรอ เธอไม่สนหรอก เธอก็แค่ชอบฝนนี่นา เธอคิดพร้อมกับเขียนตอบลงไปว่า  “คุณไม่เป็นหวัดหรอกค่ะ สายฝนไม่ทำร้ายใครหรอก” ยุนอาตอบลงไป เธอเขียนอะไรลงไปเนี่ย ดูนิยายมากเลย แต่มันก็จริงนี่ เธอไม่เห็นเคยเป็นหวัดสักครั้ง เวลาเดินตากฝน

      เจสสิก้า มองดูยุนอาที่กำลังเขียนอ่านอะไรสักอย่างในหนังสือร้านของเธอ แปลกดีจัง ยุนอากับทงเฮเวลามาที่นี่พวกเค้าจะนั่งโต๊ะเดียวกันตลอด กินลาเต้เหมือนกัน ทั้งยังอ่านหนังสือเล่มเดียวกันอีก พวกเขาน่าจะมาเจอกันสักครั้งน้า 

      11.12.31

                ซ่า ซ่า ซ่า !   
                 เสียงสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ดังไปทั่วบริเวณร้านคอฟฟี่ช็อปของเจสสิก้า พร้อมกับการปราฎตัวของร่างสูงที่วันนี้ มีพร้อมกับร่มสีเหลืองอ่อนในมือ

      “ฝนตกหนักจัง ดีนะที่พกร่มมา” ทงเฮพูดกับตัวเอง พร้อมกับเดินเอาร่มไปแขวนไว้หน้าร้าน

      “ว้าว วันนี้คุณทงเฮ พกร่มมาด้วยเหรอคะเนี่ย มิน่าหล่ะ ฝนถึงได้ตกหนักขนาดนี้” เสียงเจสสิก้าดังขึ้นด้วยความแปลกใจ วันนี้เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ลูกค้าจอมขี้ลืมของเธอ เอาร่มมาด้วยแฮะ

      “ผมไม่ได้ขี้ลืมขนาดนั้นสักหน่อย” ทงเฮพูดขึ้น ในขณะที่เขากำลังเดินมาที่โต๊ะ ‘ตัวเดิม’และหยิบหนังสือ ‘เล่มเดิม’ ขึ้นมา  “คุณไม่เป็นหวัดหรอกค่ะ สายฝนไม่ทำร้ายใครหรอก” ข้อความนั้นทำให้ทงเฮถึงกับยิ้มออกมา น่ารักจัง เขาพูดกับตัวเอง ผู้หญิงคนนี้เหมือนเด็กมากเลย

      “วันนี้ทำไมยุนอายังไม่มาอีกน้า”  เจสสิก้าพูดขึ้น เพราะปกติเวลานี้ยุนอาต้องมาแล้วหรือว่าฝนตกหนักจนเธอไม่ได้ออกจากบ้านกัน

      “ผมกลับก่อนะครับ” ทงเฮเอ่ยลา

      “ค่ะ กลับบ้านดีๆนะคะ”   ทงเฮยิ้มรับพร้อมกลับเดินออกไป

      “จะถือหนังสือเล่มนั้นไปทำไมกันนะ”  เจสสิก้าพูดกับตัวเอง ทำไมทงเฮถึงได้หยิบมันออกไปแล้วไม่ขอสักคำเลยหล่ะเนี่ย

               ว้า ตายแล้วววววววววว คุณแม่น้าคุณแม่จะห่วงอะไรนักหนา เราไม่เคยเป็นหวัดเพราะฝนสักหน่อย วันนี้ร้านพี่สิก้าต้องปิดแล้วแน่เลย ฝนตกหนักขนาดนี้ ร่มก็ไม่ได้เอามาอีก แล้วแกวิ่งออกมาจากบ้านทำไมเนี่ยยุนอา เด็กสาวตำหนิตัวเอง เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากมาที่ร้านของเจสสิก้าขนาดนี้ คงเพราะหนังสือเล่มนั้น หล่ะมั้ง..

                ร่างบางวิ่งมาเรื่อยๆ สายฝนก็ตกลงมาปะทะตัวเธออย่างไม่หยุดหย่อน ถ้าเป็นคนปกติก็คงอารมณ์เสียแล้วที่ต้องมาเปียกฝนแบบนี้  แต่ยุนอาไม่ใช่แบบนี้ เธออยากวิ่งอยู่แบบนี้นานๆ ฝนนี่วิเศษจริงๆเลย 

                 ทงเฮเดินอย่างรีบเร่ง โดนที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่า เขาถือหนังสือเล่มนั้นออกมาด้วย  
      อ๊ะ ! นั่นใครกัน ยุนอานึกพร้อมกับหยุดวิ่ง แล้วเขาก็วิ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าเธอ ทงเฮหยุดตรงหน้ายุนอาและยุนอาก็หยุดตรงหน้าทงเฮ เหมือนโลกหยุดหมุนเลยแฮะ

                 “เอ่ออออ คุณไม่เป็นไรนะครับ”

                 “ห๊ะ.. คะ.. เอ่ออ.. ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ” เสียงของชายหนุ่มเรียกสติของยุนอากลับคืนมา

                 “ทำไม วิ่งตากฝนมาหล่ะครับ” ทงเฮถามความน้ำเสียงที่แสดงความห่วงใย ทั้งทั้งที่เคยเจอกันครั้งแรก แต่เค้ากลับรู้สึกว่ารู้จักเธอมานาน ความรู้สึกนี้แปลกจังเลย

                 “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ มันไม่ได้เลวร้ายอะไร”  ยุนอาตอบด้วยน้ำเสียงแสดงความจริงใจ เธอรู้สึกดีที่ชายหนุ่มตรงหน้าถามว่าเธอเป็นยังไง เธอ..รู้สึกดี

                อ๊ะ ! ยุนอาสะดุดตากับหนังสือในมือของทงเฮ มันคงไม่ใช่เล่มเดียวกันหรอกนะ

                “ขอโทษนะคะ  คุณเอ่อออ เอาหนังสือเล่มนี้มาจากไหน”

                “อ่า ตายจริง มันคงติดมือผมมาจากคอฟฟี่ช็อปใกล้ๆนี่แหละครับ” ทงเฮเกาคออย่างเขินๆ เค้ารู้สึกเหมือนเด็กที่โดนจับได้ว่าทำผิดเลย

                “คุณเป็นคนเขียนมันงั้นเหรอคะ”  ยุนอาถามด้วยแววตาสงสัยแต่ในความสงสัย แววตาของเธอบอกอะไรบางอย่าง เหมือนว่าเธอกำลังดีใจ ดีใจที่เขาเขียนมัน

                “ใช่ครับ ผมเองที่มือบอนเขียนมัน”  ทงเฮพูด แต่ไวเท่าความคิด ‘เธอเป็นคนเขียนตอบเรางั้นเหรอ’ และ เหมือนยุนอาอ่านใจของทงเฮออก 

                “ใช่ค่ะ ฉันเขียนตอบคุณเอง  ขอโทษนะคะที่เขียนมันโดยไม่ได้รับอนุญาต”

                “ไม่เป็นไรหรอกครับ” เขายิ้มพร้อมกับแววตาที่แสดงถึงความดีใจ ที่ล้นออกมาทางดวงตา

      ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสอง ทงเฮจึงทำลายความเงียบ

      “ขอบคุณนะครับ” 

      “คะ ?”

      “ขอบคุณที่เขียนตอบผม”

      “ฉันรู้สึกดีที่ได้ตอบคุณนะคะ”

      รอยยิ้มปรากฏขั้นบนหน้าของคนทั้งสอง รอยยิ้มที่เป็นมิตร รอยยิ้มที่จริงใจ

      “ผม ทงเฮครับ”
      “ฉัน ยุนอาค่ะ”

      ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากทั้งสองอีก ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา จะมีใครรู้บ้างไหมว่า หัวใจทั้งสองดวง กำลังเต้นไปพร้อมๆกัน ...





      // ไรท์เตอร์แต่งเป็นครั้งแรกค่ะ ยังไงฝากติชมด้วยน้อออออออออออออ  รู้สึกว่ามันมั่วๆไงไม่รู้ 555555









      
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×